ท้องอืดบ่อย แก้อย่างไร?

 

                 ท้องอืด อาหารไม่ย่อย ปวดจุกเสียดแน่นท้อง เป็นปัญหากวนใจที่แม้ไม่ใช่อาการอันตรายร้ายแรง แต่หากเกิดขึ้นบ่อยหรือเป็นแบบเรื้อรัง ก็ย่อมทำให้เรารู้สึกอึดอัดไม่สบายตัว และรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันอย่างแน่นอน ทำให้หลายๆคนมองหาวิธี แก้อาการ ท้องอืด มาหลายทาง และยังไม่สามารถแก้ได้เสียที วันนี้ สุขภาพดีดี.com ห่วงสุขภาพของทุกท่านจึงได้รวบรวมข้อมูล ท้องอืดบ่อย แก้อย่างไร? มาให้ทุกคนค่ะ

 

                 เริ่มต้นจากมาทำความรู้จักสาเหตุของของอาการท้องอืดกันก่อนว่า เป็นอาการที่เกิดจากการมีแก๊สในกระเพาะอาหารมาก ซึ่งสาเหตุก็มักมาจากอาหารไม่ย่อย โดยเฉพาะเมื่อเรากินมากหรือเร็วเกินไป กินอาหารที่มีแก๊สเยอะ กลืนอากาศเข้าไปมาก หรือมีปัญหาในทางเดินอาหารอยู่แล้ว เช่น เป็นโรคกระเพาะและลำไส้อักเสบ เป็นต้น

 

                 การแก้อาการท้องอืด สามารถทำได้หลายวิธี ตั้งแต่การบรรเทาอาการด้วยตัวเอง การกินยา ไปจนถึงการรักษาโดยคุณหมอผู้เชี่ยวชาญ สำหรับคนที่เจอปัญหานี้บ่อยๆ สุขภาพดีดี.com รวมวิธีการแก้อาการท้องอืด แบบธรรมชาติๆ ที่เราสามารถทำได้เองมีอะไรบ้างมาให้อ่านกันค่ะ

 

ท้องอืดมีสาเหตุมาจากอะไร ?

 

                 สาเหตุของอาการท้องอืดที่พบบ่อยมาจากการมีแก๊สในระบบทางเดินอาหารมากกว่าปกติ ซึ่งมาจากการรับประทานอาหารแล้วไม่สามารถย่อยได้อย่างเหมาะสมหรือมาจากการกลืนอากาศเข้าไปในขณะที่กำลังรับประทานอาหารหรือดื่มเครืองดื่ม โดยเฉพาะผู้ที่มีพฤติกรรมต่อไปนี้ อาจเพิ่มโอกาสให้ท้องอืดได้มากขึ้น

 

  • รับประทานอาหารเร็วเกินไป
  • รับประทานอาหารพร้อมกับคุยไปด้วย
  • ดื่มน้ำอัดลมและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • ดื่มน้ำจากหลอดดูด
  • เคี้ยวหมากฝรั่ง
  • สูบบุหรี่
  • สวมฟันปลอมหลวม
  • การขาดหรือมีการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในระบบทางเดินอาหารมากเกินไป
  • มีการสะสมของแก๊ส
  • การเคลื่อนไหวหรือการบีบตัวของลำไส้ลดลง
  • เกิดความบกพร่องในการระบายลมออกจากร่างกาย
  • ท้องผูก
  • การดูดซึมอาหารที่ผิดปกติ
  • ลำไส้แปรปรวน

 

วิธีแก้อาการท้องอืด

 

1. ปรับเปลี่ยนนิสัยการกินใหม่ แก้อาการท้องอืด

                 หนึ่งในวิธีง่ายๆ และได้ผลดี ก็คือการเปลี่ยนนิสัยการกินที่ไม่ดีเสียใหม่ เช่น กินอาหารให้ช้าลง เคี้ยวให้ละเอียดมากขึ้น หลีกเลี่ยงการกินเยอะจนอิ่มเกินไป งดอาหารและเครื่องดื่มที่มีแก๊สเยอะ อย่างน้ำอัดลม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ของหมักดอง และผักตระกูลกะหล่ำ รวมถึงอย่านอนทันทีหลังกินอิ่มใหม่ๆ วิธีเหล่านี้จะช่วยป้องกันอาหารไม่ย่อยซึ่งเป็นที่มาของปัญหาท้องอืดได้

 

2. กินผักผลไม้ที่ช่วยคลายท้องอืด

                 ผักและผลไม้บางชนิดมีสรรพคุณที่ช่วยลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อหลังเรากินอาหารมื้อใหญ่ๆ ได้ เช่น สับปะรด และมะละกอสุก ที่มีเอนไซม์ช่วยย่อยโปรตีนอยู่ตามธรรมชาติ รวมถึงผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูง อย่างมะเขือเทศ และกล้วยหอม ก็ช่วยลดอาการบวมน้ำและจุกแน่นในท้องได้ดีเช่นกัน

 

3. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มบางอย่าง ช่วยคุณได้

                 ใครที่มีปัญหาจุกเสียดอาหารไม่ย่อยหลังทานข้าว งดชา งดกาแฟ หรือลองเปลี่ยนพฤติกรรมมาเปลี่ยนมาล้างปากด้วย น้ำมะนาว น้ำขิง หรือชาคาโมมายล์อุ่นๆ ทดแทนเพราะเครื่องดื่มเหล่านี้มีสรรพคุณเป็นยาระบาย ช่วยขับลม กระตุ้นระบบย่อยอาหาร แถมยังแก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อได้รวดเร็วทันใจอีกด้วย

 

4. รับประทานโปรไบโอติกส์ แก้อาการท้องอืด

                 โปรไบโอติกส์ (Probiotics) คือจุลินทรีย์ชนิดดีที่อาศัยอยู่ในลำไส้ของเรา ซึ่งจะช่วยปรับสมดุลภายในทางเดินอาหาร ป้องกันไม่ให้เชื้อโรคอื่นๆ เข้ามารุกราน ลดอาการท้องผูก-ท้องเสีย และยังมีส่วนช่วยในการย่อยอาหารด้วย เราสามารถรับโปรไบโอติกส์ได้จากอาหารจำพวกนมเปรี้ยว โยเกิร์ต ซึ่งหากทานเป็นประจำก็จะช่วยแก้ปัญหาท้องอืดในระยะยาวได้

 

5. นวดกดจุดลดแน่นท้อง

                 การนวดกดจุด เป็นศาสตร์การแพทย์โบราณที่สามารถบรรเทาภาวะอาหารไม่ย่อย หรือการดูดซึมผิดปกติได้ โดยผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าจุดที่กดแล้วจะช่วยแก้ท้องอืดได้ ได้แก่ “จุดจงหว่าน” ที่อยู่กึ่งกลางลำตัวตรงหน้าท้อง เหนือสะดือขึ้นมาประมาณ 4 นิ้ว “จุดจู๋ซานหลี” ที่อยู่ตรงหน้าแข้งทั้ง 2 ข้าง ใต้สะบ้าหัวเข่าประมาณ 3 นิ้ว และ “จุดเน่ยกวน” ที่อยู่ตรงแขนด้านใน ใต้เส้นข้อมือประมาณ 2 นิ้ว การนวดคลึงเบาๆ ที่จุดเหล่านี้เป็นเวลา 3 – 5 นาทีหลังกินอาหาร จะช่วยลดอาการท้องอืดจุกเสียดแน่นได้เป็นอย่างดี

 

6. ใช้ยาสมุนไพรแก้ท้องอืด

                 รู้ไหมว่าผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรหลายตัวมีสรรพคุณช่วยแก้ท้องอืดได้ดีไม่แพ้ยาแผนปัจจุบันเลย ตัวอย่างเช่น สารสกัดจากตะไคร้และขิง หรือน้ำมันสกัดจากเปปเปอร์มินต์ และสเปียร์มินต์ ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยลดอาการอักเสบระคายเคืองในช่องท้อง รวมไปถึงอาการปวดเสียด แน่นท้อง และท้องอืดจากสาเหตุต่างๆ แถมสมุนไพรที่ว่ายังมีส่วนผสมของเมนทอลที่ให้กลิ่นหอมเย็นสดชื่น ซึ่งช่วยคลายความเครียด วิตกกังวล อันเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อาหารไม่ย่อยอีกด้วย

 

ที่มาข้อมูล: รพ.พญาไท

 

By admin

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *