สารตกค้างในร่างกาย อันตรายกว่าที่คิด
การใช้ชีวิต ณ ปัจจุบันของเรานั้นต้องเผชิญกับสารพิษต่างๆอยู่เสมอ ไม่ว่าจะทาง อากาศ ควัน ไอน้ำ ไอเสีย การรับประทานอาหาร หรือแม้กระทั่งในน้ำดื่มที่เรารับประทานกันอยู่ทุกวัน แต่สารตกค้างต่างๆนั้น เราอาจจะไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า เนื่องจากสารตกค้างบางชนิดนั้นมีโมเลกุลขนาดเล็กมาก ดังนั้นเพื่อการป้องกันและเตรียมความพร้อม สุขภาพดีดี.com ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ สารตกค้างในร่างกาย อันตรายกว่าที่คิด มาให้ทุกคนได้ศึกษากันค่ะ
เริ่มต้นกันด้วย มาทำความรู้จักกับ สารปนเปื้อนในอาหาร (Contaminants) กันก่อนนะคะคะ สารปนเปื้อนในอาหาร หมายถึง สารที่ปนเปื้อนมากับอาหารโดยซึ่งอาจมาจากกระบวนการผลิต ทั้งในกรรมวิธีการผลิต โรงงาน การดูแลรักษา การบรรจุ ตลอดจนการขนส่งและการเก็บรักษา หรือเกิดจากการปนเปื้อนจากสิ่งแวดล้อม
ปัจจุบันในการผลิตอาหาร ผู้ผลิตบางแห่งมีการนำสารเคมี ผสมในอาหาร สารเคมีบางอย่างเป็นอันตรายต่อร่างกาย บางชนิดหากบริโภคเข้าไปในปริมาณมากอาจถึงแก่ชีวิตได้ สารเคมีที่เป็นอันตรายแต่มักพบว่ามีการปนเปื้อนในอาหารและสำนักคุณภาพและความปลอดภัยอาหาร มีการเก็บตัวอย่างนำมาทดสอบอยู่เสมอ
วันนี้ สุขภาพดีดี.com รวบรวมตัวอย่าง สารตกค้างในร่างกาย ที่เราสามารถพบเจอกันบ่อยมาให้ทุกคนได้อ่านกัน เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงได้ทันท่วงที เพื่อสุขภาพร่างกายที่ดีในระยะยาว มาเริ่มกันที่ชนิดแรกกันเลยค่ะ
บอแรกซ์ (Borax) |
บอแรกซ์ (Borax) เป็นสารเคมีสังเคราะห์ ลักษณะเป็นผงสีขาว ไม่มีกลิ่น มีชื่อที่เรียกกันทั่วไปหลายชื่อ เช่น ผงน้ำประสานทอง ผงกรอบ เพ่งแซ เป็นต้น ภาควิชาเภสัชเคมี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับบอแรกซ์ไว้ โดยทั่วไปบอแรกซ์ใช้ในอุตสาหกรรมทำแก้ว ล้างหม้อขนาดใหญ่ ใช้ป้องกันวัชพืชในการเกษตร ใช้ป้องกันเชื้อราขึ้นตามต้นไม้ ใช้เป็นยาเบื่อแมลงสาบ และใช้เป็นตัวเชื่อมทองเส้นเข้าด้วยกัน ปัญหาการใช้บอแรกซ์เกิดจากมีผู้นำมาใช้ผสมอาหาร เพื่อทำให้อาหารมีความเหนียวหรือกรุบกรอบทำให้อาหารชวนรับประทาน
อาหารที่มักพบว่ามีบอแรกซ์ผสม เช่น ลูกชิ้น หมูยอ อาหารชุบแป้งทอด พวกกล้วยทอด มันทอด ผัก/ผลไม้ดอง เป็นต้น
สารฟอกขาว |
สารฟอกขาว เป็นสารเคมีที่มีคุณสมบัติในการยับยั้งการเปลี่ยนสีของอาหารไม่ให้เป็นสีน้ำตาล เมื่ออาหารนั้นถูกความร้อนในกระบวนการผลิต หรือถูกหั่น/ตัด แล้ววางทิ้งไว้ และยับยั้งการเจริญเติบโตของยีสต์ รา
สารเคมีดังกล่าวที่นิยมใช้เป็นสารกลุ่มซัลไฟต์ ได้แก่ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ โซเดียมหรือโปแตสเซียมซัลไฟด์ โซเดียมหรือโปแตสเซียมไบซัลไฟต์ และโซเดียมหรือโปแตสเซียมแมตาไบซัลไฟต์ ซึ่งจะได้รับอนุญาตจาก
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้ใช้ได้ในอาหารทุกชนิด คือ สารโซเดียมไฮโดรซัลไฟต์ หรือ โซเดียมไดไทโอไนต์ เป็นสารเคมีที่ใช้ในการฟอกแหวน ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพมาก แต่มีผู้ลักลอบนำมาใช้ฟอกขาวในอาหาร สารนี้มีคุณสมบัติในการสลายตัวได้เร็วเมื่อทิ้งไว้จะเปลี่ยนไปอยู่ในรูปของสารกลุ่มซัลไฟต์
อาหารที่มักพบว่ามีสารฟอกขาวผสม เช่น ถั่วงอก ขิงฝอย ยอดมะพร้าว กระท้อน หน่อไม้ดอง น้ำตาลมะพร้าว ทุเรียนกวน
ความเป็นพิษ ถ้าร่างกายได้รับสารฟอกขาวแล้วกระบวนการในร่างกายจะเปลี่ยนสารไปอยู่ในรูปของซัลเฟตและขับออกได้ทางปัสสาวะ แต่ถ้าได้รับสารฟอกขาวกลุ่มโซเดียมไฮโดรซัลไฟต์ หรือกลุ่มซัลไฟต์เกินกำหนด สารฟอกขาวจะไปทำลายไวตามินบี 1 ในร่างกาย ทำให้เกิดอาการหายใจขัด ความดันโลหิตต่ำ ปวดท้อง อาเจียน อุจจาระร่วง ในรายที่แพ้อาจเกิดลมพิษ ช็อค หมดสติ และเสียชีวิตได้โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคหอบหืด
โคลิฟอร์มในน้ำและน้ำแข็ง |
โคลิฟอร์มในน้ำและน้ำแข็ง ซึ่งส่วนมากจะตรวจพบเจอสารนี้ในน้ำและน้ำแข็ง หากตรวจพบในน้ำ ก็แสดงว่าน้ำนั้นน่าจะไม่ปลอดภัย คืออาจมีเชื้อโรคอยู่ในน้ำหรือในน้ำแข็งนั้น แบ่งตามแหล่งที่มา จะแบ่งได้เป็น 2 ชนิด คือ
1. ฟีคัลโคลิฟอร์ม (Fecal coliform) อาศัยอยู่ในลำไส้ของคนและสัตว์เลือดอุ่น ถูกขับถ่ายออกมากับอุจจาระ เมื่อเกิดการระบาดของโรคระบบทางเดินอาหาร จะพบแบคทีเรียชี้แนะชนิดนี้ เช่น อี.โค.ไล (E.coli)
2. นันฟีคัลโคลิฟอร์ม (Non-fecal coliform) อาศัยอยู่ในดินและพืช มีอันตรายน้อยกว่าพวกแรก ใช้เป็นแบคทีเรียชี้แนะถึงความไม่สะอาดของน้ำได้ เช่น เอ. แอโรจิเนส (A. aerogenes)
อาหารที่มักพบว่ามีโคลิฟอร์มผสม เช่น น้ำดื่ม น้ำธรรมชาติ น้ำปะปา น้ำขวด น้ำแข็ง
เราควรให้ความสำคัญกับน้ำดื่มและน้ำแข็งให้มากขึ้น เนื่องจากน้ำเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตซึ่งนอกเหนือจากมีการบริโภคน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติแล้ว เรายังบริโภคน้ำประปา น้ำดื่มบรรจุขวดและน้ำแข็งด้วย น้ำจากแหล่งต่าง ๆ ที่กล่าวถึงอาจมีเชื้อโรคที่ปะปนอยู่ซึ่งจะทราบได้จากการตรวจหาโคลิฟอร์ม น้ำและน้ำแข็งที่ตรวจพบโคลิฟอร์มอาจมีการปนเปื้อนของเชื้อโรคอาหารเป็นพิษซึ่งทำให้ผู้บริโภคมีอาการท้องร่วง ท้องเสีย อาเจียน เป็นไข้ ปวดศีรษะ หรืออาจเสียชีวิตได้
สารกันรา (กรดซาลิซิลิค) |
สารกันรา (กรดซาลิซิลิค) เป็นกรดอินทรีย์ชนิดหนึ่ง ที่ใช้เป็นวัสดุในการทำเครื่องสำอาง และการผลิตยาบางชนิด สูตรเคมีคือ C6H4OH.COOH มีลักษณะเป็นผลึกสีขาวมีจุดหลอมเหลว 159 องศาเซลเซียส มีสมบัติยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ได้ดี แต่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ เป็นสารที่ห้ามใช้ในอาหาร แต่มีการนำสารชนิดนี้ใส่ในน้ำดองผักผลไม้เพื่อให้ดูใสเหมือนใหม่อยู่เสมอ
อาหารที่มักพบว่ามีสารกันราผสม เช่น แหนม หมูยอ ผักผลไม้ดองจำพวก มะม่วงดอง ผักกาดดอง มะกอกดอง มะดันดอง ขิงดอง ก๊งฉ่าย เกี๊ยมฉ่าย ไชโป้ และหน่อไม้อัดปี๊บ
กระทรวงสาธารณสุขจึงได้กำหนดห้ามนำมาใส่เจือปนในอาหาร ถ้าผู้บริโภคได้รับสารกันราหรือกรดซาลิซิลิคจนมีความเข้มข้นในเลือดปริมาณ 25ถึง 35 มิลลิกรัม ต่อเลือด 100 มิลลิลิตร จะมีอาการอาเจียน หูอื้อ มีไข้และอาจถึงตายได้
สารเร่งเนื้อแดง |
สารเร่งเนื้อแดง เนื่องจากปัจจุบันกระแสนิยมของเนื้อย่างเกาหลี หรือเนื้อย่าง กำลังเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่น และทำให้มีการฉีดเร่งสารเนื้อแดงมากขึ้นอย่างแพร่หลาย สารเร่งเนื้อแดงในเนื้อสุกรเป็นสารเคมีกลุ่มเบต้าอะโกนิสต์ (Beta-agonist) เช่น ซาลบลูทามอล (Salbutamol), เคลนบิวเทอรอล (Clenbuterol) ซึ่งปกติใช้เป็นยารักษาโรคหอบหืดในคนและสัตว์เท่านั้น แต่มีการลักลอบนำมาใช้ผสมอาหารเลี้ยงสุกร เพื่อเพิ่มเนื้อแดงและลดไขมันตามความต้องการของตลาดและผู้บริโภค ทำให้เกิดการตกค้างของสารนี้ในเนื้อสุกร
อาหารที่มักพบว่ามีสารเร่งเนื้อแดงผสม เช่น เนื้อหมูสดทุกส่วน เนื้อหมูสามชั้น เนื้อวัวทุกส่วน เป็นต้น
ความเป็นพิษ ถ้าบริโภคสารนี้เข้าไปจะทำให้เกิดอาการมือสั่น กล้ามเนื้อกระตุก ปวดศรีษะ หัวใจเต้นเร็ว เป็นตะคริว คลื่นไส้ อาเจียน มีอาการทางประสาท มีผลกระทบต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ได้รับ
จากที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นได้ว่าถึงแม้ว่าเราจะมีการระวังในการรับประทานอาหาร หรือดื่มน้ำดื่มมากเพียงใด ก็อาจจะมีสารปนเปื้อนอยู่ในอาหารที่เรารับประทานได้ เพราะมีการใช้กันอย่างแพร่หลาย ดังนั้นเราควรเลือกรับประทานอาหารที่ทำให้เรามั่นใจได้ว่าจะไม่มีสารปนเปื้อนหรือมีสารปนเปื้อนน้อยที่สุด โดยเลือกรับประทานอาหารที่สดใหม่ และปรุงสุก เพื่อป้องกันสารปนเปื้อนในระดับแรก
เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของทุกๆคน สุขภาพดีดี.com ได้คัดเลือกผลิตภัณฑ์ดีๆที่คิดว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกๆคน คือ Maxxlife Detoxzy แมกซ์ไลฟ์ ดีท็อกซ์ซี่ บรรจุ 10 แคปซูล อย. 13-1- 06950-1- 0013 เป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่จะ ช่วยขจัดพิษตกค้างในร่างกายทุกชนิด เช่น แอลกอฮอล์ ควันบุหรี่ สารพิษต่างๆจากการรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม และสารเคมีที่ปนเปื้อนในร่างกาย
ส่วนประกอบสำคัญ Maxxlife Detoxzy โปรตีนสกัดจากถั่วเหลือง 150.00 มก. แอล- คาร์นิทีน แอล- ตาร์เตรต 120.00 มก. (ให้แอล- คาร์นิทีน 81.84 มก.) แอล- กลูต้าไธโอน 100.00 มก. แอล- ไลซีน 70.00 มก. แอล- อาร์จินีน 60.00 มก.