โรคกระเพาะ หายได้ไหม
“โรคกระเพาะอาหาร” เป็นโรคสําคัญและพบได้บ่อย โดยเฉพาะกลุ่มวัยทำงาน สาเหตุหลักมาจากการรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา มีความเครียด หรือรับประทานยาที่กัดกระเพาะ ซึ่งอาการอาจมีความรุนแรงจนเป็นเหตุให้ผู้ป่วยต้องหยุดงานหรือต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล
เนื่องจาก กระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้นเป็นอวัยวะที่มีน้ำย่อยและกรดที่เข้มข้น สำหรับใช้ในการย่อยอาหาร ดังนั้น ผนังของเยื่อบุกระเพาะอาหารและลำไส้ จึงต้องมีกลไกในการปรับสภาพให้ทนต่อกรดและน้ำย่อย จึงไม่ทำให้เกิดแผลในภาวะปกติ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดท้อง หรือปวดท้องบิดจนทรมาน
ดังนั้น ผู้ป่วยและบุคคลทั่วไป มีความรู้เบื้องต้นจะมีประโยชน์ในการดูแลรักษาตนเองเบื้องต้น และป้องกันโรคได้อย่างถูกวิธี
วันนี้ สุขภาพดีดี.com ได้รวบรวมข้อมูลดีๆเกี่ยวกับ โรคกระเพาะ หายได้ไหม มาให้ทุกคนได้อ่านและศึกษากันดังนี้
สาเหตุของโรคกระเพาะ |
- การรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา
- การรับประทานยาแก้ปวดจำพวกแอสไพริน
- การรับประทาน ยาแก้อักเสบ หรือแก้ปวดจำพวกที่ใช้ในโรคกระดูกและข้อ
- การดื่มสุรา และการสูบบุหรี่
- ภาวะความเครียด, ความวิตกกังวล
- การติดเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่ชื่อ Helicobacter pylori สามารถอาศัยอยู่ในกระเพาะอาหารของคนเรา มีส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดโรคกระเพาะได้เช่นกัน
- การมีก้อนเนื้องอกในกระเพาะอาหาร ซึ่งเป็นได้ทั้งเนื้อดี และเนื้อร้ายอีกด้วย
อาการของโรคกระเพาะ |
- ปวดหรือจุกแน่นท้องบริเวณใต้ลิ้นปี่ หรือ หน้าท้องช่วงบน เป็นอาการที่พบบ่อยที่สุด มักเป็นเวลาท้องว่า หรือเวลาหิว อาการจึงเป็นเฉพาะบางช่วงเวลาของวัน
- อาการปวดแน่นท้อง มักจะบรรเทาได้ด้วยอาหารหรือยาลดกรด
- อาการปวด มักจะเป็นๆหายๆ โดยมีช่วงเว้นที่ปลอดอาการค่อนข้างนาน เช่น ปวดอยู่ 1-2 สัปดาห์ แล้วหายไปหลายเดือนจึงกลับมาปวดอีก
- ปวดแน่นท้องกลางดึกหลังจากที่หลับไปแล้ว
- แม้จะมีอาการเรื้อรังเป็นปี สุขภาพโดยทั่วไปจะไม่ทรุดโทรม
- โรคแผลกระเพาะอาหารจะไม่กลายเป็นมะเร็ง แม้จะเป็นๆ หายๆ อยู่นานกี่ปีก็ตาม นอกจากจะเป็นแผลชนิดที่เกิดจากโรคมะเร็งของกระเพาะอาหารตั้งแต่แรกเริ่มโดยตรง
การรักษาและดูแลด้วยตัวเอง |
- กินอาหารอ่อน ย่อยง่าย
- กินอาหารตรงตามเวลาทุกมื้อ
- กินอาหารจำนวนน้อยๆ แต่กินให้บ่อยมื้อ ไม่ควรกินจนอิ่มมากในแต่ละมื้อ
- หลีกเลี่ยงอาหารเผ็ดจัด เปรี้ยวจัด สุรา
- งดสูบบุหรี่
- งดการใช้ยาแก้ปวด แอสไพริน และยาแก้โรคกระดูกและข้ออักเสบทุกชนิด
- ผ่อนคลายความเครียด กังวล พักผ่อนให้เพียงพอ
- กินยาลดกรด หรือยารักษาแผลกระเพาะอาหารติดต่อกันอย่างน้อย 4-8 สัปดาห์
- ถ้ามีอาการของภาวะแทรกซ้อน ต้องรีบไปพบแพทย์
การรักษาด้วยยา |
- Antacid เป็นยาตัวแรกที่ใช้มานาน เพื่อลดอาการที่เกิดขึ้น และป้องกันการระคายเคืองของกระเพาะอาหาร โดยลดความเป็นกรดในกระเพาะอาหารสามารถทานยาได้ตลอดเวลา ออกฤทธิ์ระยะสั้น
- Histamine receptor antagonists โดยจะช่วยยับยั้งการหลั่งกรด การรักษาด้วยยานี้จะได้ผลเมื่อใช้นานประมาณ 1 เดือน
- Proton pump inhibitors เป็นยาที่นิยมใช้ในปัจจุบันแต่มีราคาที่ค่อนข้างแพง มีฤทธิ์ยับยั้งการผลิตกรดและช่วยให้แผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ส่วนต้นหายได้เร็วขึ้น
- Mucosal protective agents มีผลในการเคลือบแผลทำให้หายได้เร็วขึ้น ไม่ให้เกิดการระคายเคืองของเยื่อบุทางเดินอาหาร
- การรักษา H.pylori เมื่อมีการตรวจพบจะพิจารณาให้ยาตามแผนการรักษาของแพทย์
โรคกระเพาะหายได้ไหม ? |
ในความเป็นจริงแล้วโรคกระเพาะนั้นจะเป็นๆหายๆ เมื่อรักษาแล้วก็สามารถกลับมาเป็นซ้ำได้อีก ซึ่งไม่สามารถหายขาดได้ 100% แต่อย่างไรก็ตามอาการจะหนักหรือเบานั้นขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตัวของผู้ป่วย หากมีการดูแลตัวเองตามข้อแนะนำ และทานยาตามที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสั่ง ก็จะสามารถบรรเทาอาการ และสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ดังนั้นผู้ป่วยควรเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เพิ่มความเสี่ยงกับกระเพาะอาหาร ด้วยความรักและห่วงใยจาก สุขภาพดีดี.com
ที่มาข้อมูล : รู้ทัน “โรคกระเพาะอาหาร” ด้วยการรักษาอย่างถูกวิธี