ไวรัสกลายพันธุ์ โควิดรุนแรงที่อินโดนีเซีย
โควิด-19 หรือ สายพันธุ์ใหม่ที่กล่าวถึงว่า ว่าเกิดการกลายพันธุ์ใน ประเทศอินโนนีเซียนั้น เป็นสายพันธุ์ ที่ได้รับการระบุว่าเกิดขึ้น ตั้งแต่ช่วงเดือน กุมภาพันธ์ เป็นสายพันธุ์ ที่แพร่กระจายไปทั่วโลก
โดยเฉพาะอเมริกา และ ยุโรป ก็ได้รับการยืนยันสายพันธุ์ว่า เชื้อที่กำลังแพร่อยู่ คือเชื้อเดียวกัน กับ เชื้อ ที่เกิด ไวรัสกลายพันธ์ุ ที่อินโดนีเซีย
พบ ไวรัสกลายพันธ์ุ ของเชื้อ ไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ ในอินโดนีเซีย เพิ่มมากขึ้น โดยสถาบัน Eijkman Institute for Molecular Biology ซึ่ง ตั้งอยู่ในเมืองจาการ์ตา
ได้กล่าวว่า ในช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ถึงปริมาณการแพร่ระบาด ในเรื่องของจำนวนนั้น ในภูมิภาค เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพิ่มสูงขึ้น อย่างน่าเป็นกังวล
อินโดนีเซีย เพิ่งมีรายงาน การติดเชื้อ ของบุคคลภาในประเทศ ว่า มีจำนวน 2,858 ราย ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เมื่อเปรียบเทียบกับหลัก และ ฐานข้อมูล ของกระทรวงสาธารณะสุข พบว่า มีการติดเชื้อในรายใหม่ลดลงกว่า
ในบันทึกของวันเวลาก่อนหน้า คือ 3,308 ราย แต่มวลรวมแล้ว ยังสูงกว่าค่าเฉลี่ย รายวันของเดือนที่ผ่านมา จำนวนผู้ป่วยโควิด รวมทั้งหมด 172,053 ราย มีผู้เสียชีวิต 7,343 ราย
ข้อสังเกตุสำคัญ : เพิ่มการทดสอบ ตรวจหาเชื้อ หลังจากการเปิดเศรษฐกิจ กับ การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ผู้เชี่ยวชาญ Syahrizal Syarif นักระบาดวิทยา จากมหาวิทยาลัยอินโดนีเซีย ออกมาเตือนชาวอินโด ว่า
ชาวอินโดนีเซีย ต้องให้ความใส่ใจ และ ระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจาก การทดสอบ ตรวจหาเชื้อ เรื่องการแพร่กระจาย ของเชื้อไวรัส เมื่อเปรียบเทียบ กับ สถานการณ์ การแพร่ปัจจุบันในอินโดนีเซีย อาจจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นจากตอนนี้
170,000 ขยับตัวเลข การติดเชื้อภายในอินโด ไปได้มากถึง 500,000+ ราย ในช่วงปลายปี ซึ่งเป็นระยะเวลาอีกแค่ 4 เดือน เพราะสถานการณ์การที่เชื้อกลายพันธุ์ และ การแพร่เชื้อในขณะนี้ ผู้เชี่ยวชาญเอง ยอมรับว่า เป็นไปได้ยากมาก ที่จะควบคุม
ให้กลับมาอยู่ในสถานการณ์ปกติ
Syarif กล่าวเสริมว่า จำนวนผู้ติดเชื้อในแต่ละวัน หลังจากวิเคราะห์ จากการทดสอบนั้น อาจจะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว ในแต่ละวัน หากความสามารถ หรือ ศักยภาพ ในการตรวจสอบหาเชื้อ มีมากขึ้น
หรือกล่าวง่ายๆว่า วันนึง สามารถตรวจหาเชื้อ ในกลุ่มตัวอย่างได้มากขึ้น ยกตัวอย่างที่ประเทศ อินเดีย ที่ในแต่ละวัน มีผู้เข้ารับการตรวจ 1 ล้าน รายต่อวัน และ ยังพบการติดเชื้อ มากที่สุดในโลกกว่า 78000 ราย ต่อวัน
เมืองหลวงจาการ์ตา เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พบว่ามีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น เป็นประวัติการณ์ของการแพร่ระบาด ซึ่งพุ่งขึ้นไปสูงกว่า 1,000 ราย ซึ่งปัจจัยของการแพร่ระบาดหลักๆ ทำให้รัฐมุ่งประเด็นไปชี้ที่ การเคลื่อนที่ การเดินทาง
และ ความแออัดของผู้คน ที่มากขึ้น ในช่วงของเทศกาล เฉลิมฉลองของประเทศ ในเรื่องของการประกาศเอกราช ในช่วงกลางเดือน สิงหาคม ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้คนจำนวนมาก และ ทำให้เกิดการแพร่เชื้อ อย่างรวดเร็ว
การที่พบ ไวรัสกลายพันธุ์
เป็นสายพันธุ์ D614G ที่มีผลด้านการติดเชื้อ เหมือนสายพันธุ์เก่า แต่ผลการติดเชื้อ รุนแรงกว่า ด้านอาการของโรค สามารถเปรียบเทียบ และ จัดประเภทได้ในลำดับจีโนม
ของการจัดการข้อมูลที่ถูกรวบรวมโดยสถาบันที่เกี่ยวข้อง รองผู้อำนวยการ Herawati Sudoyo กล่าวกับสำนักงานข่าวรอยเตอร์ว่า มีความจำเป็น เป็นอย่างยิ่งว่า ต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม ว่าการที่เชื้อดังกล่าว กลาพันธุ์นั้น
มีผลต่อการแพร่ระบาดที่เพิ่มขึ้น ในประเทศ หรือไม่อย่างไร สายพันธุ์ ดังกล่าว ซึ่งถูกระบุโดย องการอนามัยโลก ชี้แจงว่า มีการเริ่มการแพร่ระบาด ตั้งแต่ช่วงเดินกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และ แพร่กระจาย ไปทั่วยุโรป และ อเมริการ
ยังมีประเด็นที่น่าสนใจอีกอย่าง คือ เชื้อไวรัส ที่กลายพันธุ์ชนิดนี้ พบการระบาด ในสิงคโปร์ และ มาเลเซีย ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย
หากเกิดประเด็นดังกล่าวแล้ว จำเป็นต้องทำให้เกิดความตระหนัก และ ความเข้าใจ เกิดความร่วมมือ ไม่ว่าจะเป็นจากทางฟากฝั่งของรัฐบาล หรือ ว่าประชาชนในประเทศ ในเรื่องของวิธีการ หรือ มาตรการจัดการ การเพิ่มขึ้นของผู้ป่วย
เป็นจำนวนมากขนาดนี้
Dwi Oktavia เจ้าหน้าที่ ของหน่วยงานด้านสุขภาพ ของเมืองจาการ์ตา กล่าวแถลง ให้ประชาชนในเมืองทราบว่า ถ้าเป็นไปได้ ควรอยู่บ้าน หรือ เคหะสถานที่ปลอดภัย เพื่อลดโอกาส การเดินทางไปแพร่ระบาดของเชื้อ ที่มีมนุษย์เป็นพาหะ
แต่ถ้าหากมีความจำเป็น ขอความกรุณาสวมหน้ากากอนามัย เพื่อช่วยในการลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ โควิด-19
REF : Business.Standard.com
กับข่าวสุขภาพ และ สถานการณ์โรคได้ที่ สุขภาพดีดี.com
Maxxlife Isonity 30 เม็ด เบต้ากลูแคน+วิตามินซี+โรสฮิพ สำหรับคนเป็นภูมิแพ้ และ เพิ่มภูมิคุ้มกัน
Isonity (Beyond Plus)
Beyond Plus Isonity (Wellgate Maxxlife)
บรรจุ 30 เม็ด
อย. 10-1-04741-1-0693
Isonity เบต้ากลูแคน+วิตามินซี+โรสฮิพ สำหรับคนเป็นภูมิแพ้
เบต้ากลูแคน (1,3)/(1,6) beta-glucan สารธรรมชาติ ช่วยเสริมภูมิต้านทาน บรรเทาอาการภูมิแพ้
การทำงานของ Beyond Plus Isonity
1. เบต้ากลูแคน คือ สารสกัดจากยีสต์ดำสามารถให้สารจำพวกเบต้ากลูแคนในปริมาณที่มากกว่าแหล่งอื่น และโครงสร้างของสารที่ได้ยังเป็นโครงสร้างแบบ 1,3/1,6 Beta-Glucan ซึ่งเป็นโครงสร้างที่สามารถกระตุ้นเม็ดเลือดขาว
2. โรสฮิป อุดมไปด้วยวิตามินซี วิตามินเอ วิตามินบีต่างๆ วิตามินดี วิตามินอี น้ำตาลฟรัคโตส กรดซิตริค กรดมาลิค โปแทสเซียม สังกะสี เหล็ก แมกนีเซียม และไบโอฟลาโวนอยด์ ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่สำคัญต่อกระบวนการทำงานของร่างกายในการต่อต้านอนุมูลอิสระ
3. ซิตรัส ไบโอฟลาโวนอยด์ (สารสกัดจากพืชตระกูลส้มหรือผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวเช่น มะขาม ส้มโอ ส้มเขียวหวาน มะนาว เป็นต้น จัดเป็นสารอาหารในกลุ่มของไบโอฟลาโวนอยด์ ซึ่งมีความเป็นสารต้านอนุมูลอิสระสูง ละลายน้ำได้ดี ทำงานร่วมกับวิตามินซีได้ดี
4. อะเซโลรา เชอร์รี่ เป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ คือ วิตามินซี มีโปรตีนและแร่ธาตุสูงโดยเฉพาะ เหล็ก ฟอสฟอรัส แคลเซียม และมีสาระสำคัญตัวหนึ่งชื่อ trans-beta-carotene ซึ่งเชื่อกันว่าสามารถเสริมสุขภาพพื้นฐานของร่างกาย มีปริมาณของไขมันอิ่มตัว และโซเดียมต่ำ ไม่มีคลอเลสเตอรอล และจากผลการวิจัยพบว่า อะเซโรลา เชอร์รี่ มีปริมาณวิตามินซีสูงกว่าที่พบในส้มถึง 30-80 เท่า
วิธีรับประทาน Beyond Plus Isonity
รับประทานวันละ 1 เม็ดพร้อมอาหาร