ระบบภูมิคุ้มกัน แข็งแรง ด้วย 4 วิธี

 

ว่าง่าย ๆ ระบบภูมิคุ้มกัน ก็คือเกราะภายในร่างกาย ที่ทำหน้าที่

ในการป้องกัน ความเสี่ยง และ โรค ระบบที่ซับซ้อน

ประกอบด้วยเซลล์ในผิวหนังเลือดไขกระดูกเนื้อเยื่อและอวัยวะต่างๆ

โดยสิ่งที่มันป้องกัน ก็คือไวรัส และ แบคทีเรีย ที่ส่งผลทำร้ายร่างกาย

และจำกัดการทำร้ายบางอย่าง ที่ไม่ใช่การติด เช่นแดดเผา หรือ มะเร็ง

 

ดูเหมือนว่าระบบของภูมิคุ้มกัน จะเป็นส่วนที่โคตรสำคัญมาก

ทีช่วยให้เรา มีชีวิตรอด ในแต่ละวันได้ เพราะในทุกวันนี้ สิ่งที่คอยทำร้ายเรา

จากทั้งภายนอก และ สิ่งที่เรากินเข้าไป ช่างมากมายเหลือเกิน

 

ระบบภูมิคุ้มกัน เหมือนไวทยากรณ์ ที่นำวงออเคสต้า ที่เรียกว่าเร่างกาย

ให้เล่นสุดยอดเพลงอยู่ตลอดเวลา คอยคุม ให้มันทำงานได้อย่างสุดยอดอย่างเสมอ

 

แล้วระบบภูมิคุ้มกัน ของเรา ก็ทำหน้าที่ปกป้องร่างกายทุกวัน ตลอดเวลา

โดยไม่มีหยุดไม่ว่าอะไรก็ตาม ที่ทำงานตลอดเวลา โดยไม่มีพัก มันก็ต้องพัง หรือ ไม่ก็

เสื่อมประสิทธิภาพไปอยู่ดี

 

คำถามก็คือ เราจะทำอย่างไร ให้ระบบภูมิคุ้มกันของเรา ทรงประสิทธิภาพเสมอ

ในการทำงาน ดูแลรักษาร่างกายได้อย่างเต็มที่เสมอ จึงเป็นที่มาของการนำเสนอ

7 วิธีดูแลระบบภูมิคุ้มกัน ให้แข็งแรงอยู่สม่ำเสมอ

 

1.กินอาหาร ไดเอท 

 

ไอเดท ที่ไม่ใช่ดรายเอท นี่ไม่ใช่เชิญชวนให้คุณไปกินเนื้อคุณภาพดี

แต่เป็นการชวนให้ กินอาหารที่มีประโยชน์ และ ดีต่อสุขภาพ คุณค่าและ

โภชนาการที่ดี จากอาหาร เป็นสิ่งสำคัญ ยิ่งเป็นอาหาร ประเภท พืช ผัก

หรือ จำพวกเครื่องเทศนั้น ยิ่งดีต่อร่างกาย และ ภูมิคุ้มกันมาก เพราะมันช่วยกระตุ้น

ให้ระบบทำงานได้อย่างเต็มที่ ทรงประสิทธิภาพ และพืช ผัก หลายชนิด

ยังมีความสามารถในการต้านไวรัส หรือ แบคทีเรีย และ การติดเชื้อได้ดีอีกด้วย

 

 

และสิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ แร่ธาตุ และ โปรตีน เช่น zinc,flolate,b12,copper และ อื่นๆ

เป็นส่วนสำคัญ ในกระบวนการทำงาน ของระบบภูมิคุ้มกัน

และโปรตีน ก็เป็นอีกส่วนที่ห้ามขาด เพราะกรดอะมิโน ในการย่อยสลายโปรตีน

เป็นส่วนที่ช่วยสร้าง เซลล์ที่เกี่ยวข้องกับระบบของภูมิคุ้มกัน การไม่กินโปรตีน

หรือ กินได้น้อย เป็นส่วนลดประสิทธิภาพ การทำงานไปโดยปริยาย

เป็นอะไรที่ต้องใส่ใจกันตั้งแต่ เรื่องของการกินเลยทีเดียว ยังไม่หมด มาดูอีก 6 อย่างต่อเลย

 

2.ควบคุมความเครียดให้ได้

 

ความเครียดระดับสูง นำไปสู่การสร้างฮอร์โมร ที่เรียกว่า คอติซอล ที่สูงขึ้น

ความจริงการมี คอติซอล เป็นเรื่องที่ดีนะ เพราะว่าฮอร์โมนนี้ จะเป็นตัวช่วย ก่อนที่

ระบบภูมิคุ้มกัน ที่ร่างกายมี จะเข้ามายุ่งกับเรื่องความเครียดในร่างกาย นั่นแปลว่าอะไร

ถ้ามีความเครียดต่อเนื่อง ร่างกายก็ผลิตคอติซอล อย่างต่อเนื่อง และ เมื่อมันเกิดเป็นเวลานาน

อะไรที่ส่งผลร้าย ต่อร่างกาย ทำให้ระบบภูมิคุ้มกัน ต้องเข้ามายุ่งอยู่ดี และ เมื่อมัน

เข้ามาจัดการเรื่องนึง แปลว่าประสิทธิภาพในการทำงาน ปกป้องร่างกาย จากไวรัส แบคทีเรีย

จะลดลงเป็นเงาตามตัว

 

 

นั่นแปลว่าไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้ว ที่จะปล่อยมันความเครียดของคุณเรื้อรัง

ผู้เชี่ยวชาญ กล่าวว่า ถ้าคุณมีความเครียดมากเกินไปแล้ว ถึงว่าต้องปลดปล่อยมันออกไป

ตัวอย่างง่ายๆ อยากให้คุณลองฝึกทำสมาธิดู เพื่อกำหนด เรื่องที่คุณต้องการโฟกัส

จัดลำดับความสำคัญ และ ไล่เรียงดูว่า คุณชอบทำอะไร และ อะไรทำให้คุณเกิดความเครียด

ค่อยๆไตร่ตรอง และ หาทางออกกับมัน และ พยายามหาวันว่างเพื่อรีแลกซ์กับเรื่องต่างๆ

ในชีวิตบ้าง เพื่อไม่ให้ทุกเรื่องถาโถมมาที่คุณเยอะเกินไป

 

3.จัดการการนอน ให้มีคุณภาพเสมอ 

 

ช่วงเวลาของการนอนหลับ เป็นช่วงเวลาสุดพิเศษของระบบ

เพราะหากคุณหลับได้ตามมาตรฐานที่ดี จะเป็นช่วงเวลาที่ระบบ จะทำการสร้าง

และพัฒนาสาร ตัวอย่างเช่น ไคโตไซน์ ซึ่งเป็นเซลล์ชนิดหนึ่ง ที่เกี่ยวข้องกับ T Cell

T Cell มีความเกี่ยวข้อง กับระบบของการป้องกันไวรัส แบคทีเรีย โดยตรง

และ ถ้าหากคุณนอนไม่พอแล้วละก็ ระบบภูมิคุ้มกัน อาจจะทำงานได้ไม่ดี อย่างที่หวังเอาไว้

และมีแนวโน้มว่า อะไรก็ตาม ที่กำลังโจมตีร่างกายของคุณ จะประสบผลสำเร็จ

 

 

เทียบกับคนที่นอนอย่างเต็มที่ จะพบในการศึกษาได้ว่า คนนอนน้อย จะป่วย

เป็นไข้หวัดได้มากกว่า คนที่นอนเต็มที่ แม้ว่าจะได้รับวัคซีนก็ตามที

การอดนอน ยังส่งผลให้คอติซอล ให้เพิ่มขึ้น เหมือนกันกับ ความเครียด

และนั่นแปลว่า ระบบภูมิคุ้มกัน ของคุณ จะอ่อนแอลง แน่นอน เพราะต้องมา

คอยจัดการกับคอติซอล ที่เพิ่มขึ้นในร่างกาย โดยการแนะนำทั่วไป

แนะนำให้นอนอย่างน้อย 7 ชั่วโมงต่อคืน ปิดเครื่องมืออิเลคโทรนิกส์

และห่างจากมัน เมื่อถึงเวลานอนของคุณ

 

4.ออกกำลังกาย 

 

แค่การออกกำลังกายธรรมดา ก็ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ของภูมิคุ้มกันได้

จำพวก โรคหัวใจ และ ความอ้วน และ เบาหวาน รวมไปถึงการติดเชื้อและไวรัส

การออกกำลังกาย ยังช่วยเพิ่มสารเอนดอร์ฟิน เป็นหนทางที่ดี ในการจัดการ

เรื่องของระบบความเครียด เพราะความเครียดมีผลโจมตีกระบวนการทำงานของ

ระบบภูมิคุ้มกัน และการออกกำลังยัง ยังช่วยพัฒนาประสิทธิภาพของการต้านโรคได้อีกด้วย

บางครั้ง เราอาจจะเคยได้ยินคนรพูดมาว่า หากออกกำลังกายเข้มข้น มากเกินไป

อาจจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ และถูกกด แต่จากการศึกษา ในความเป็นจริง

กลับให้ผลที่ย้อนแย้ง เพราะมันไปเป็นตัวกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกัน ทำงานได้อย่างดีซะอีก

 

 

REF : Everydays Health

 

 

 

By admin

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *