ศัลย์ยกเครื่องหน้า

ศัลย์ยกเครื่องหน้า เผยภาพผ่าตัดใหญ่ แหม่ม วิชุดา

 

แหม่มวิชุดา กับการรีโนเวท ยกเครื่อง ศัลย์ทั้งกระบิ เผยโฉมบาร์บี้

ได้หน้าใหม่ ถูกใจทุกคน ดูกี่ครั้ง ก็สวย น่ารัก ไม่ผิดหวัง ที่ลงทุน

กับการศัลยกรรมใหม่ครั้งนี้ แต่ใครจะรู้ว่า กว่าจะได้หน้าแบบนี้

ต้องผ่านความพีค อะไรมาบ้าง

 

แหม่ม วิชุดา กับหน้าใหม่ ที่ดูคล้ายตุ๊กตาบาร์บี้ เป็นรูปแบบหน้า ที่สาวๆ หลายคนหวังใจ

ว่าหลังศัลยกรรม จะได้หน้ารูปหน้าออกมาแบบนี้ เพราะมันดูเข้ารูปเสียว เรียกว่า Perfect

ก็ว่าได้ แต่กว่า แหม่ม วิชุดา พินดั้ม จะได้หน้าออกมาครบ จบ สวยขนาดนี้ ต้องบอกเลยว่าไม่ง่าย

เพราะต้องผ่านการศัลยกรรมมากกว่า 4 รอบ (เฉพาะเกาหลี ไม่นับไทย )กว่าจะพักฟื้น

กว่าจะหาย เข้ารูป ก็บอกได้เลยว่า เป็นฝันร้ายขณะย่อมๆ เลยเหมือนกัน สำหรับการรอคอย จนออกมาเป็นอย่างทุกวันนี้

จุดเริ่มต้น ของการทำศัลยกรรม ของแหม่ม ต้องบอกเลยว่า เริ่มตั้งแต่ช่วงอายุ 26 ในช่วงนั้น

อาจจะยังไม่ได้ทำอะไรมาก อาจจะเป็นการฉีดแฟต เติมไขมัน เอาเข้า เอาออก เป็นเรื่องปกติ

ของการเติมรูปหน้า ให้เข้ารูป ดูดี เข้าลิฟกรอบหน้า อย่างที่ควรจะเป็น แค่นั้น ก็นับเป็นการศัลยกรรมแล้ว

และก็ทำเรื่อยมา จนมาถึงช่วงอายุ 42 ที่เป็นการตัดสินใจ จัดการกับหน้าตา ที่เป็นไปตามวัย

และรับรู้ว่า ต้องทำอะไรสักอย่างกับมันแล้ว

 

รอบแรก เมษายน 2561 

ครั้งนี้ เป็นการจัดการ กับเรื่องของถุงใต้ตา เพราะรู้สึกว่า ถึงใต้ตา มีความหย่อนคล้อย

รวมถึงใบหน้า และ เรื่องของริ้วรอย ในส่วนต่างๆ ของใบหน้า ทำให้ตัดสินใจ

ในการยกกระชับใบหน้า ในครั้งนี้ ลงทุนไปจัดการปัญหาเหล่านี้ ที่ประเทศเกาหลี

ดินแดน ที่ขึ้นชื่อ เรื่องของการทำศัลยกรรมอยู่แล้ว โดยการแก้ไข ปัญหาของถุงใต้ตานั้น

ทำโดยการกรีด ไลน์ของขนตา เพื่อเอาไขมันออก และ เย็บยก ทำให้ดูไม่เหี่ยว เด็กขึ้น

 

ส่วนของการแก้ไขปัญหา หย่อนของใบหน้านั้น ทำโดยวิธีการ ของการร้อยไหมถาวร

ข้างละ 2 – 4 เส้น ทำให้หน้าถูกยกกระชับ ดูอ่อนวัยลง และ อยู่ได้นาน 2 – 5 ปี

แก้ไขร่องแก้ม ด้วยการดูไขมันจากต้นขา มาเติม ทำให้หน้าเต็ม ไม่เป็นร่องลึก

รวมถึงเทคนิค PRP เอาเลือดมาปั่น ฉีดกลับเข้าไป ทำให้รูขุมขนเล็กลง

ฝ้า กระ จุดด่างดำ ลงลดด้วย ทำให้ดูอ่อนวัยลง

 

รอบสอง สิงหาคม 2561 

เกิดความไม่โอเคขึ้น กับไหม ที่ร้อยเข้าไป จากการที่เคลมว่า อยู่ได้ 2 ปี

กลับไม่เป็นที่หน้าประทับใจ อย่างที่คิด รวมถึงโบท็อก์ ที่รับเข้าไป ก็ไม่ได้เห็นผล อย่างที่แจ้ง

จึงตัดสินใจ บินกลับไปแก้ใหม่ ในรอบที่ 2 ที่เกาหลีเหมือนเดิม โดยผ่านเอเจนซี่

และโรงพยาบาล ใหม่ทั้งหมด ซึ่งสิ่งที่ไปทำในครั้งนี้ ได้แก่

 

ปลูกผมกว่า 3000 เส้น เกี่ยวกับเรื่องหน้าผาก เถิกขึ้น

ดูดไขมันกรอบหน้า

แก้ไขปากคว่ำ ด้วยการเย็บยกมุมปาก

ฉีดปากด้วยฟิลเลอร์ 1 CC

ทำผิวฉ่ำ สุขภาพดี

อัลเทอร์ล่าจำนวน 300 Shot

ลิฟติ้ง ดึงหน้าเด็ก ตัดผิวเกิน กล้ามเนื้อ ยกกระชับ

 

เจลซิลิโคนใส และ แผ่นแปะซิลิโคน สำหรับดูแลรอยแผลเป็นจากศัลยกรรม อุบัติเหตุ ผ่าตัด และ อื่นๆ

 

 

โดยรอบ 2 นี้ จัดหนักแบบ จุกๆ ไปกว่า 7 อย่าง ได้ยินราคาที่ทำ อาจจะจุกก่า

โดยค่าบริการทั้งหมด จบที่ 33 ล้านวอน หรือประมาณ 1+ ล้านบาท

ถึงเป็นราคาที่สูง แต่แลกกับหน้า ที่ได้กลับมานั้น ถือว่าคุ้มค่ามาก

เพราะลดวัยไปได้หลายปี และ มีใบหน้าราวกับตุ๊กตาบาร์บี้

 

รอบสาม เมษายน 2562

8 เดือน หลังจากแก้หน้ารอบที่ 2 ผ่านไป แหม่มตัดสินใจกลับไปอัปเกรดอีกรอบ

รวมเป็น 3 รอบ แล้ว ในทั้งหมดที่ทำศัลยกรรมมา ดึงหน้ากระชากวัย ให้กลับมาใสวิ๊ง

เพิ่มอีก โดยรอบนี้เน้น รายละเอียด หรือ ดีเทลเล็ก ของใบหน้า เอาให้จบ ให้ขาด

โดยรายการจัดการ มีดังนี้

 

Endotine กระชับใบหน้าด้วยเทคนิคสุดพิเศษ ย้อนวัยได้เป็น 10 ปี

Botox บริเวณหน้าผาก ลดรอยเหี่ยวเฉพาะจุด

แก้ริมฝีปากบาง 1 cc ด้วยฟิลเลอร์

ยกมุมปาก เพิ่มเติม 1 รอบ

สลายไขมันใต้ดวงตา ด้วยการฉีด

เลาะพังผืดใต้ตา ลดการเหี่ยวย่น

ฉีดไขมันหน้าอวบอิ่ม เป็นธรรมชาติ

 

โดยในราคารอบนี้ ขอไม่แจ้งว่าเท่าไหร่ อยากจะบอกว่า ศัลย์ยกเครื่องหน้า

ของแหม่มทั้งสามครั้งนี้ ได้ดั่งใจจริงๆ

 

ศัลย์ยกเครื่องหน้า ครั้งใหญ่นี้ ถูกมองว่าติดการศัลยกรรม?

 

โดยแหม่มแจ้งว่า ทั้งหมดที่ทำนี้ จะเป็นครั้งสุดท้าย เกี่ยวกับศัลยกรรมแล้ว และจะไม่ทำอีกแล้ว

เรื่องสุขภาพส่วนอื่น เน้นเรื่องของการออกกำลัง การพักผ่อน และ การดื่มน้ำให้ครบถ้วน

ตามที่ร่างกายต้องการ และ ไม่ได้มองว่า การที่ตนทำศัลยกรรมหลายๆ รอบนั้น เป็นการติดการศัลย์

 

โดยมองว่า การออกมาเผยแพร่ ข้อมูลเกี่ยวกับ การทำศัลยกรรมทั้งหมดของตนเองนั้น

เป็นวิทยาทาน และ ประโยชน์ ของคนที่สนใจ ในการศัลยกรรม แก้ไขใบหน้าบางจุด

โดยมุ่งเน้น ให้การทำศัลยกรรมนั้น ไม่เกิดข้อผิดพลาด หรือ พลาดน้อยที่สุด

คงไม่มีใครอยากเห็นหน้าตัวเองที่ดูผิดปกติ หรือ ดูไม่สวยงาม เพราะคนเราชอบไม่เหมือนกัน

ดังนั้น จึงไม่อยากใครคนอื่นๆ มาดูถูก หรือ มาวิจารณ์ในทางไม่ดี กับคนศัลยกรรมเท่านั้นเอง

 

 

โดยทางแหม่ม ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การที่ตนเอง ทำศัลยกรรมดูเหมือนจะบ่อย ถี่มาก 

ทำติดๆกัน ในช่วงเวลา ปี ถึงสองปี บางคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมแผลผ่าตัดหายเร็ว 

แป๊บเดียวผ่าอีกแล้ว แป๊บเดียวศัลย์อีกแล้ว ต้องบอกว่า แหม่ม มีตัวช่วยดีๆ สำหรับการดูแล

ปัญหาแผลจากการศัลยกรรมโดยเฉพาะ เพราะมันช่วยให้แผลแห้งและหายเร็วมาก 

ตัวช่วยนั้นคือ KELOSIL เจลซิลิโคนใส และ KELOPAD แผ่นซิลิโคนแปะบริเวณแผลเป็น 

ใช้แค่สองตัวนี้ ใช้ได้ทั้งแผลเป็นเก่า และ ใหม่ แป๊บเดียวหายสนิท อยากแนะนำ 

ให้คนศัลยกรรมทุกคนได้ทดลองใช้ดู รวมถึงคนที่เป็นแผลเป็นอื่นๆ ก็ใช้ได้ด้วย 

 

เจลซิลิโคนใส และ แผ่นแปะซิลิโคน สำหรับดูแลรอยแผลเป็นจากศัลยกรรม อุบัติเหตุ ผ่าตัด และ อื่นๆ

By admin

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *