7 ขั้นตอน ลดระดับความดันโลหิต เมื่อคุณอายุมากขึ้น
หากคุณเป็น 1 คน ต้องการเป็นคนที่มี อายุยืนยาว มีสุขภาพที่ดี
หนึ่งทางสำคัญ ที่จะเป็นตัวแปร ที่จะช่วยให้คุณ มีชีวิตดี ยืนยาว
นั่นคือ เรื่องของการรักษาระดับ ของความดันโลหิต หรือ ความดันเลือด
ในร่างกายของคุณให้อยู่ในระดับที่ดี เมื่ออายุของคุณมากขึ้น
ทำไมต้องใส่ใจเรื่องความดัน?
ในเรื่องนี้ ต้องขอบอกว่าต้องใส่ใจ และ ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ยิ่งในช่วงแบบนี้
หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ช่วงเวลาของการแพร่ระบาด ของเชื้อไวรัสกินโลก อย่าง Covid-19
เพราะว่า ผู้ที่มีระดับความดันเลือดสูงนั้น นับเป็นหนึ่ง ของปัจจัยความเสี่ยง ของการ
พัฒนาความรุนแรงของเชื้อ กล่าวอ้างจาก ศูนย์ป้องกัน ควบคุม สหรัฐอเมริกา
ตัวคุณเอง อาจจะสามารถควบคุม ความดันโลหิตของตนเองได้แล้ว
การศึกษาใหม่ พบว่า หากคุณทำตามแผน ของการควบคุมระดับของความดัน
หรือ ระดับความดันโลหิต ตามกระบวน หรือ ขั้นตอน 7 วิธีได้
จะช่วยลดอัตรา การเกิดความดันสูงได้ถึง 6%
โดยการศึกษาในสหรัฐอเมริกานี้ เกิดขึ้นเพราะ ใน USA นั้น สามารถพบเคส ที่มีอาการ
ของความดันโลหิตสูงได้มาก และยังเป็นตัวที่ส่งกับโรคอื่น ทำให้สุขภาพของคุณแย่ลงได้อีกด้วย
โดยการศึกษาใหม่ ครั้งนี้ ได้ถูกตีพิมพ์ลงใน นิตยสารวิชาการ ในเชื่อว่า
“American Heart Hssociation”
โดยในการศึกษาครั้งนี้ ผู้วิจัยทำการติดตามบุคคล ทั้งผิวขาว และ ผิวคล้ำ จำนวนถึง 3000 คน
ที่ไม่มีโรค ความดันโลหิตสูง เป็นโรคประจำตัวมาก่อน โดยใช้ระยะเวลาในการศึกษา นานถึง 9 ปี
โดยศึกษาในกลุ่มตัวอย่าง ที่อยู่ในช่วงอายุเกือบกลางคน ( 30 – 45 ปี ) เหตุผลในการทำการศึกษา
ในส่วนนี้ ไม่ได้สนใจเลือกกลุ่ม ที่มีลักษณะใกล้เคียง แต่ต้องการติดตามศึกษารูปแบบ ความแตกต่าง
ของกลุ่มอย่าง และ ผลลัพธ์ ที่จะเกิดในกลุ่มตัวอย่าง ที่ทำการศึกษา ว่าในแต่ละปัจจัย ภูมิภาค
กายภาค ของแต่ละพื้นที่ มีผลต่างรึเปล่า ในเรื่องของกระบวนการ การจัดการปัญหาของอาการ
ความดันโลหิตสูง ในช่วงท้ายของการศึกษา พบ 1 จุด ที่มีความสำคัญ ใน 7 ขั้นตอน
ของกระบวนการลดระดับความดัน โดยอัตราลดความเสี่ยง บนการกระทำใน 7 ขั้นตอน
สามารถลดได้ถึง 6%
สร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย ลดคลอเลสเตอรอลและไขมันในเลือดควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและปริมาณอินซูลิน
ชีวิตเรียบง่าย 7 ขั้นตอน
AHA จะประเมินสุขภาพของหัวใจ โดยดูจาก พฤติกรรม 4 ประการ
- รักษาระดับน้ำหนัก จากการวัดผลด้วย ดัชนีมวลกาย BMI ในระดับที่ดีระหว่าง18.5 ถึง 24.9
- ออกกำลังกายปานกลาง อย่างน้อย 150 นาที ต่อสัปดาห์ หรือ คอมโบระดับ ปานกลาง หรือ แข็งแรง หรือ 75 นาทีต่อสัปดาห์
- การรับประทานอาหาร ที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งเต็มไปด้วย ผัก และ ผลไม้ มีไขมัน เกลือ และ น้ำตาลต่ำ
- หยุด หรือ ไม่เริ่ม การสูบบุหรี่
จากนั้น เครื่องมือ AHA จะเพิ่มปัจจัย ของการดูแลสุขภาพ อีก 3 ประการ
- โดยระดับ ของความดันโลหิต ในเกณฑ์ปกติ ที่เป็นที่ยอมรับนั้น อยู่ที่ 120 / 80
หรือที่ระดับ 130 / 80 ซึ่งก็ถือว่าสูง แต่ไม่ใช่โรค ความดันโลหิตสูง
- มวลของ คอลเลสเตอรอล ของ LDL ที่เป็นไขมันเลว ควรอยู่ที่ 190 mg / dL
เป็นส่วนที่ยอมรับได้ ในหมู่ของผู้ที่ไม่เป็นโรค ไขมัน เบาหวาน ความดัน
- ระดับน้ำตาล ระหว่างในการอดอาหาร ก่อนตรวจ ควรอยู่ไม่เกิน 100 mg / dL
หรือต่ำกว่า เป็นส่วนที่ยอมรับได้
โดยหลักการ ในการประเมิน ทั้ง 7 อย่างนั้น มีเกณฑ์คะแนนจากต่ำไปสูง แบ่งเป็นระดับชั้น
โดยมีคะแนนตั้งแต่ 0 – 14 ดังนั้นแล้ว ในหลักของการประเมิน หากใครได้รับคะแนนสูง เข้าใกล้
14 คะแนน หรือ มีความใกล้เคียง 14 คือผู้ที่มีระดับสุขภาพที่ดี
ผู้เชี่ยวชาญ กล่าวว่า การที่บุคคลใด สามารถทำได้ 1 ใน 7 ข้อนี้ เท่ากับ ทำให้ร่างกาย สามารถลดความเสี่ยง
ของการเป็นโรค ความดัน หลอดเลือด หัวใจได้แล้ว โดยคนที่ได้คะแนนสูงกว่าครึ่งนึง หรือ มากกว่า 7 คะแนน
ใน 9 ปี ตลอดการศึกษาพบว่า มีโอกาสต่ำกว่า ในการที่จะเป็นโรค แต่สำหรับ ผู้ที่มีคะแนนต่ำกว่า 7 นั้น
มีโอกาสเป็นโรค สูงกว่ามาก
ดังนั้นแล้ว การทำพฤติกรรมง่ายๆ แค่ 7 อย่าง จะเป็นตัวเปลี่ยนแปลงชีวิต และ ความเสี่ยงทางด้านการเป็นโรค
ให้เป็นไปในทิศทางที่ดีมากขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า การที่จะทำให้บุคคลเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้ชีวิตทันทีเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก
ยกตัวอย่างเช่น ผู้ที่สูบบุหรี่ จะให้มันเลิกสูบบุหรี่เลยทันที คงเป็นเรื่องที่เป็นไม่ได้ แต่ในทางกลับกันคือ
ถ้าเค้าเปิดใจในการออกกำลังกายบ้าง ก็อาจจะทำให้คะแนนความเสี่ยงของการเป็นโรคลดลง
ความมุ่งหวังของผู้ศึกษาคือ ต้องการเข้าถึงบุคคลอายุน้อย ถึงการดูแลแบบ 7 ขั้นตอน ตั้งแต่ยังอายุไม่มาก
เพื่อเป็นการลดโอกาสเป็นโรคในอนาคต โดยกลุ่มที่ผู้ทำการศึกษา ให้การสนใจเป็นพิเศษ คือกลุ่มคนผิวสี
เนื่องจากมีระดับไขมันสูงที่สุด ในหมู่ผู้ที่เข้าร่วมเป็นกลุ่มทำการศึกษา
สร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย ลดคลอเลสเตอรอลและไขมันในเลือดควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและปริมาณอินซูลิน
I don’t think the title of your article matches the content lol. Just kidding, mainly because I had some doubts after reading the article.