ตั้งการ์ดรับ โควิด-19 ที่อาจจะกลับมาอีกรอบ
ถึง แม้นช่วงนี้ สถานการณ์ การแพร่ ระบาดของ โรค โควิด-19 ในบ้านเราจะ อยู่ในจุดที่ ควบคุมได้ไม่น่ากลัว เราสามารถใช่ชีวิต ได้ เกือบจะ ปกติแล้ว จนบางคน ชะล่าใจ เริ่มลดความระมัดระวัง ลง หลายๆ คน ไม่ใส่หน้ากาก เพื่อป้องกันตัว เริ่ม ออกไปเที่ยว ในสถานที่ต่างๆ โดยไม่เว้นระยะห่าง และ ที่สำคัญคือ การอยู่ร่วมกัน ในที่คนแออัด ซึ่งเป็นพฤติกรรม ที่สวนทางกับ ข่าว การพัฒนาสายพันธ์ ของ เชื้อโควิค ที่กำลัง ระบาด อยู่ในต่างประเทศ ซึ่งไม่ใช่ประเทศที่อยู่ห่างไกลเราเลย และ โลกในยุคนี้ เรียกได้ว่า ไร้พรมแดน หากเราลดกาด ไม่กลับมาเตรียมตัว ระวังตัว ดูแลตัวเองกันให้ดีอีกครั้ง รับรองว่า ได้เห็น โควิด Return ซึ่งการกลับมารอบนี้ ต้องรุนแรง จนอาจจะควบคุมไม่ได้เหมือนครั้งแรกแน่นอน
จากกระแสข่าว เชื้อโควิด กลายพันธ์ ที่ออกมานั้น เป็นเชื้อที่ติดง่ายขึ้น เข้าโจมตี ร่างกายได้รวดเร็วและรุนแรงมากขึ้น เชื้อนั้นคือ เชื้อโควิค-19 สายพันธุ์ G ซึ่ง วารสานวิชาการ “CELL” ได้ ลงบทความ ผลงานวิจัย จากกลุ่มแพทย์ผู้เชียวชาญเฉพาะทางด้านโรคติดเชื้อ แห่งคณะแพทยศาสตร์ ไฟน์เบิร์ก มหาวิทยาลัย นอร์ทเวสเทิร์น ได้พบโครวสร้างพันธุกรรม ที่มีความผิดแปลก ที่มาจากตัวอย่างเชื้อไวรัสโควิค –19 ที่ได้จาก ผู้ติดเชื้อ ที่เมืองชิคาโก สหรัฐอเมริกา
ผลงานวิจัยดังกล่าวสรุปได้ว่า ราว 70% ของไวรัส โควิค –19 ที่มีอยู่ประมาณ 50,000 จีโนม ได้ขยายไปสู่ขั้นตอนการ “กลายพันธุ์” แล้ว โดย โครงสร้างของ ไวรัสโควิค-19 ซี่งมี Amino Acid อยู่หลายชนิด แต่มี อยู่ ตัวเดียวที่กลายพันธุ์ คือ Number 614 ได้กลายพันธุ์ เปลี่ยน จาก D (Aspartic) ไปเป็น G (Glycine) ซึ่งสายพันธุ์ G นี้จะมี “Spike Protein” ที่ยื่นออกมาจากตัว ไวรัส) มากกว่าเดิม (เหมือนมีแขนยื่นออกมามากขึ้น จึงทำให้ ไวรัส ยึดเกาะกับ เซลล์ ดีๆ ของร่างกายได้ ดีขึ้น รวดเร็ว ขึ้น และ แน่นขึ้น จึงทำให้ ไวรัส โควิค-19 สายพันธุ์ G ติดได้รวดเร็วแพร่เชื้อในร่างกายเร็ว ทำลาย ปอดและทางเดินหายใจได้เร็วขึ้น มีโอกาสการเสียชีวิตที่เร็วขึ้นเช่นกัน ป้องกันตัวเอง เป็นวิธีที่ดีทีสุด โดย การป้องกันตัวนั้น ต้องทำ ทั้ง 2 ทาง คือ ป้องกันไวรัสจากภายนอกเข้า ภายใน และ ต้องเตรียมเสริมภูมิคุ้มกัน ของเราให้แข็งแรง เพื่อกำจัดไวรัส ได้หากเกิดการพลาด มีไวรัส หลุดเข้ามาให้ตัวเรา
การป้องกันตัว จากเชื้อโรคจากภายนอก
- ใส่หน้ากากอนามัย หรือ หน้ากากผ้า ที่สามารถป้องกัน เชื้อไวรัสได้ ตลอดเวลาที่ อยู่ภายนอกบ้าน
- ล้างมือบ่อยๆ โดยใช่ แอลกอฮอล์ 75% ขึ้นไป หรือ สบู่
- เว้นระยะห่างอย่างน้อย 1-2 เมตร
- ใช้ภาชนะ จาน ชาม แก้วน้ำ และ ช้อน ส่วนตัว ไม่ใช่รวมกัน
- หลีกเลี่ยง ที่ชุมชน แออัด
- รับผิดชอบต่อสังคม หากมีไข้ ไอ จาม หลังพบแพทย์ ควรหยุดพักที่บ้าน จนกว่าจะหายดี ลดการแพร่เชื้อ
- ให้ข้อมูลที่เป็นจริง กับ แพทย์ที่ที่ทำการรักษา
ตั้งการ์ดรับ พร้อมการป้องกัน จากภายใน การ เสริมภูมิคุ้มกันให้ แข็งแรง พร้อมรับ หากเกิดการติดเชื้อ
- นอนพักผ่อนให้เพียงพอ 6-8 ชม ต่อวัน
- ออกกำลังกาย สม่ำเสมอ อย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์
- ทำจิตใจให้สบาย ถึงเราจะกังวล กับสถานการณ์ ในช่วงนี้แต่ความเครียด จะทำให้ ภูมิคุ้มกันในร่างกายลดลง
- ดื่มน้ำสะอาด ไม่น้อยกว่าวันละ 8 แก้ว
- เลือกทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ช่วยให้ร่างกาย นำสารอาหารที่ได้ ไปสร้างภูมิคุ้มกัน
- เลือกเสริมภูมิคุ้มกัน โดย อาหารเสริมหรือสมไพรที่ได้ทีมีงานวิจัยรองรับ ว่าสามารถต้าน เชื้อไวรัส ผลจริง เช่น สมุนไพรพลูคาว
พลูคาว สมุนไพร ต้านเชื้อไวรัส ที่ผ่านการวิจัย
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) ได้สนับสนุนงบประมาณการวิจัยพืชสมุนไพรทางการแพทย์ เพื่อรักษาโรคต่างๆ โดยเฉพาะโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสชนิดต่างๆ รวมทั้งเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ซึ่งปรากฎว่าได้ค้นพบสมุนไพรพื้นบ้าน “คาวตอง” มีคุณสมบัติพิเศษในการรักษาการติดเชื้อ รักษาแผล รักษามะเร็ง การต้านเชื้อไวรัสและแบคทีเรียได้ นอกจากนี้ยังพบว่าสมุนไพรคาวตอง ยังมีคุณสมบัติพิเศษในการรักษาการติดเชื้อ ต้านเชื้อไวรัสและแบคทีเรียได้ และได้เตรียมที่จะศึกษาเชิงลึก เพื่อพัฒนาเป็นยาต้านเชื้อหวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009
ประโยชน์ของสมุนไพรพลูคาว ที่พร้อม ตั้งการ์ดรับ โควิด
สถาบันวิจัยสมุนไพร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข มีการรายงานถึงสรรพคุณของผักคาวตอง และหนังสือ THE ASEAN JOURNAL OF RADIOLOGY ได้เสนอข้อมูลเกี่ยวกับการนำพลูคาวไปให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งรับประทาน พบว่า 90% ของผู้ป่วยโรคมะเร็งมีสุขภาพดีขึ้น ซึ่งต่อมามีการค้นพบว่าสารที่มีฤทธิ์ของพลูคาวคือ สารกลุ่มฟลาโวนอยด์และอัลคาลอยด์ มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ทำลายเซลส์มะเร็งและเนื้องอก ยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อมะเร็งและเนื้องอก ทำลายเชื้อไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา รักษาน้ำเหลืองเสีย ขับปัสสาวะ และขับสารพิษ
คำเตือน พลูคาว ไม่ควรทานสด
ดร.ภญ.ผกากรอง ขวัญข้าว หัวหน้าศูนย์หลักฐานเชิงประจักษ์ด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร
สารที่ชื่อว่า เควอซิติน กับ รูทิน
- ช่วยในเรื่องของการยับยั้งไม่ให้ไวรัสโควิดเข้าเซลล์ของร่างกาย
- ช่วยไม่ให้มีการแบ่งตัว
พลูคาวดี แต่ ไม่ควรทานแบบผักสดๆ
“สารออกซาเลต า และ สารเควอซิทินทานในปริมาณสูงมีรายงานเหมือนกันว่าทำให้เกิดนิ่วในไตแล้วก็ผู้ป่วยบางรายก็มีรายงานว่าทำให้ไตวายเฉียบพลัน”
ดังนั้น เพื่อ การดูแล สุขภาพ เสริมเกราะให้กับร่างกาย ควบคู่ไปกับ ความปลอดภัย เราจึงควรเลือก ทานพลูคาวในรูปแบบของ สารสกัด หรือ ผลิตภัณฑ์ อาหารเสริม สารสกัดพูลคาว นั้นเอง
การเลือกผลิตภัณฑ์ จากพลูคาว เพื่อ การดูแสสุขภาพ
- เลือก ผลิตภัณฑ์ ที่มี สารสกัดจาก พลูคาว ที่ผ่านการสกัด เอามาเฉพาะสาระสำคัญ ไม่ใช่การ นำ ใบพลูคาวอบแห้งมาบรรจุแคปซูลเพราะจะทำให้มีโอกาสเสี่ยงในการรับสาร สารเควอซิทิน ที่เกิน 1 กรัม/วัน เพราะหากร่างกายได้รับสารเควอซิทินมากเกินไป อาจทำให้ไตเสียหายได้
- เลือก ผลิตภัณฑ์ มี สารสกัดจาก พลูคาว ที่มีความเข้มข้นของ สารสกัดจากพลูคาวไม่น้อยกว่า 2,400 มก.ต่อแคปซูล เพื่อให้เพียงพอต่อการ ดูแลสุขภาพ เสริมภูมิคุ้มกัน และ ยับยั้งความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัส
- เลือก ผลิตภัณฑ์ มี สารสกัดจาก พลูคาว ที่มี ส่วนประกอบ ของ สมุนไพร อื่นๆ ที่ช่วย ส่งเสริมการทำงานของพลูคาว ในการ ดูแลสุขภาพ ให้พลูคาว ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เช่น
-
- เบต้า – กลูแคนจากยีสด์ = ช่วยให้เม็ดเลือดขาวแข็งแรง สร้างภูมิคุ้มกันให้ประสิทธิภาพสูงสุด
- เห็ดหลินจือ=ด้านการอักเสบ ปรับการทำงานระดับเซลล์ ให้ทำงานได้อย่างสมบูร
- โสม=บำรุงหัวใจ และ หลอดเลือดให้แข็งแรง
- เจียวกู้หลาน=ลดระดับน้ำตาลในเลือด ปรับน้ำตาลเป็นพลังงาน ทำให้ไม่อ่อนเพลีย
- วิตามินซี=เสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย ให้มีความทนทานแข็งแรง และ ว่องไวต่อการกำจัดเชื้อโรค
- เลือกผลิตภัณฑ์ มี สารสกัดจาก พลูคาว ที่ได้รับ มาตรฐานการผลิต HACCP , GMP , Natural Product และ อนุสิทธิบัตร จาก กรมทรัพย์สินทางปัญญา
และ ที่สำคัญคือ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ มีเลขที่อย ชัดเจน ที่ชื่อผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่ายที่ได้รับการยอมรับจาก เภสัชกร ร้านขายยา มานานกว่า 16ปี จึงจะมั่นใจได้ในคุณภาพ ได้ 100 %
Thank you very much for sharing, I learned a lot from your article. Very cool. Thanks.